ชุมชนพอเพียงน่าน พบปัญหาชี้นำ ล็อคสเป็ค

ชาวบ้านในชุมชน จ.น่าน ปรับเปลี่ยนหลายโครงการ ในโครงการชุมชนพอเพียง หลังประสบปัญหามีการล็อคสเป็คสินค้า และชี้นำชาวบ้าน

นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าววันนี้ (16 ส.ค.) ว่า ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองน่าน มีทั้งหมด 28 ชุมชน ได้นำเสนอโครงการต่างๆ ตามโครงการชุมชนพอเพียงมาแล้ว 11 ชุมชน 14 โครงการ มีทั้งโครงการโคมไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ เครื่องทำปุ๋ยหมักชีวภาพ น้ำดื่มชุมชน ซึ่งก่อนหน้านี้ ประชาชนในชุมชนแจ้งว่า มีการชี้นำโดยผู้นำชุมชน และนักธุรกิจบางคน นำเสนอโครงการ ไม่ตรงกับความต้องการของชาวบ้าน โดยพยายามโน้มน้าว และใช้วิธีการต่างๆ ทางเทศบาลเมืองน่านจึงออกให้ความรู้ ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน จนกระทั่งมีหลายชุมชนได้ปรับเปลี่ยนโครงการใหม่ หลังจากเคยคล้อยตาม ก่อนหน้านี้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องรับผิดชอบ ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง โดยเฉพาะแกนนำชุมชน

ด้าน ร.ต.ชัยรัตน์ ศรีสุข ประธานกองทุนพอเพียงบ้านสถารส เขตเทศบาลเมืองน่าน กล่าวว่า ชุมชนของตนเคยมีผู้วิ่งเต้นชี้นำ เพื่อให้ชาวบ้านเห็นคล้อยตาม ในการนำตู้น้ำดื่มพลังแสงอาทิตย์มาลง แต่เมื่อตนเห็นรายงานข่าว ระบุว่า โครงการอาจมีปัญหา จึงเรียกประชุมชาวบ้าน และเห็นพ้องกัน ให้ปรับโครงการเป็นการผลิตน้ำดื่มชุมชนแทน โดยชาวบ้านจะได้เงินมาทำเอง 250,000 บาท แทนการได้ตู้น้ำดื่ม อย่างไรก็ตาม หลายชุมชนที่เสนอโครงการโคมไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ และโครงการเครื่องทำปุ๋ยหมัก และก๊าซชีวภาพ ในราคาโครงการละ 200,000 บาท กำลังติดตามดู โดยหากเครื่องที่ได้มา ไม่คุ้มกับราคาเงิน ก็จะส่งคืนต่อ ไป เพื่อไม่ให้ผู้ใดได้รับผลประโยชน์ จากโครงการเพียงผู้เดียว หรือกลุ่ม

วันอาหารโลก...ที่น่าน

ประเทศไทย...เป็นหนึ่งในสมาชิกของ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nation) หรือ FAO

...ซึ่งเป็นองค์กรที่ มีบทบาทในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมการผลิตอาหารที่มีคุณภาพปลอดภัย และ ให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภคของประชากรโลก...

คุณธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เผยถึงความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรว่า.....ไทยเราได้รับความสำคัญและความไว้วางใจจากประเทศสมาชิก ยกให้เป็นสถานที่ตั้งของสำนักงานองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

ฉะนี้...กระทรวงเกษตรฯ ในฐานะหน่วยงานกลางจากภาครัฐบาล จึง ได้ประสานงานกับ FAO และร่วมกับ สำนักงานเอฟ เอ โอ กรุงเทพฯ จัดงาน วันอาหารโลก (World Food Day) ขึ้นทุกปี...

...เพื่อ รณรงค์และสร้างจิตสำนึกให้คนไทยทุกภาคส่วนของสังคมทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน ประชาชน ตลอดจนเกษตรกร ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความมั่นคงทางอาหาร

ซึ่ง...จะเป็นการส่งเสริมการผลิตอาหารที่มีคุณภาพปลอดภัย และเพียงพอต่อความต้องการบริโภค ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและนโยบายของประเทศไทย ที่สอดคล้องกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ในการแก้ปัญหาความยากจน และ....ส่งเสริมให้ประชากรโลกมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในชนบทและด้อยโอกาส

การจัดงาน วันอาหารโลก ในประเทศไทย...แต่ละปีจัดขึ้น 2 ครั้ง ได้แก่ ระดับโลก (Global Celebration) ซึ่งจัดพร้อมกับประเทศสมาชิกทั่วโลก โดย FAO เป็นผู้จัดขึ้นที่ สำนักงานเอฟ เอ โอประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก กรุงเทพฯ ถนนพระอาทิตย์....ปีนี้จัดไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยกำหนดหัวข้อ Achieving food security in time of crisis หรือ การสร้างความมั่นคงทางอาหารในยามวิกฤติ....ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญอยู่ในขณะนี้

อีกครั้ง....เป็นการส่วน การจัดงานระดับประเทศ (National Celebration) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย สำนักการเกษตรต่างประเทศ กับ FAO เป็นผู้จัด เพื่อให้ส่วนภูมิภาคมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง กำหนดจัด ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาน่าน จังหวัดน่าน ช่วงวันที่ 3 กับ 4 พฤศจิกายนนี้

ภายในงาน จะมีการสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์วันอาหารโลก เอกสารสิ่งพิมพ์ต่างๆเกี่ยวกับวันอาหารโลก โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ทุกจังหวัด เพื่อเป็นแรงกระตุ้นและผลักดัน....บนความยั่งยืนสู่อาหารปลอดภัย..!!!

ตร.น่านบุกจับเณรเสพยาบ้าคาวัด

ตำรวจน่านบุกวัดพวงพยอม รวบสามเณรตั้งวงเหล้าคากุฏิ ได้ของกลางเพียบทั้ง กัญชา ยาบ้า เหล้าขาว และอุปกรณ์เสพยา แถมด้วยปืนปากกา...

เมื่อเวลา 23.00 น. 23 มี.ค. พ.ต.ท.สมศักดิ์ ธิคำ สารวัตรสืบสวน สภ.เมือง จ.น่าน นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และชุดสายตรวจ เข้าบุกตรวจค้นที่วัดพวงพยอม ต.ในเวียง อ.เมือง หลังพบพฤติกรรมมั่วสุมและลักลอบจำหน่ายยาบ้าของพระเณรในวัดดังกล่าว โดยให้สายลับทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายอัศวิน หลงปัน อายุ 26 ปี และขณะที่นายอัศวิน กำลังนำยาบ้ามาส่งให้ ตำรวจได้บุกเข้าตรวจค้นที่กุฏิวัดชั้นล่าง พบพระ สามเณร และฆราวาส รวมทั้งหมด 7 ราย กำลังมั่วสุมนั่งดื่มเหล้าขาวและเล่นไพ่ โดยกลางวงเหล้ายังพบกัญชา อุปกรณ์การเสพกัญชาและยาบ้า เมื่อทุกคนเห็นตำรวจ ต่างพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง แต่สามารถไล่จับกุมได้ทั้งหมดเพราะอยู่ในสภาพมึนเมา



จากการตรวจค้นภายในกุฏิ พบขวดเหล้าขาวและขวดเบียร์ กระจัดกระจายตามมุมห้อง พบอุปกรณ์การเสพยาบ้าที่ใช้แล้วทิ้งอยู่จำนวนมาก และจากตรวจค้นตัวนายอัศวิน พบยาบ้า 31 เม็ด บรรจุอยู่ในอยู่ซองพลาสติก โดยนายอัศวินให้การรับสารภาพว่า ได้ซื้อยาบ้ามาจากชายไม่ทราบชื่อ แล้วนำมาเสพ ก่อนจะขายเพื่อนำเงินมาซื้อยาบ้าและเหล้ามาดื่มกัน

ต่อมาตำรวจได้ตรวจค้นภายในวัดพวงพยอม โดยตรวจกุฏิสามเณรทวี อินสุด อายุ 24 ปี พบขวดเบียร์วางอยู่ตามมุมห้อง และพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าที่ใช้แล้ว นอกจากนี้ยังพบปืนอัดลม และปืนปากกาซุกซ่อนอยู่ในกล่องกระดาษมุมห้อง ซึ่งสามเณรทวีให้การรับสารภาพว่า ได้บวชและสึกมาหลายครั้งแล้ว ล่าสุดบวชอยู่ที่วัดพวงพยอมได้ประมาณ 1 พรรษาแล้ว ซึ่งเพื่อนฝูงต่างแวะเวียนมาเที่ยวหา และชักชวนกันเที่ยว ดื่มเหล้า และเสพยาบ้ากัญชาในที่สุด ส่วนปืนปากกาที่พบในห้องนั้นเป็นของเพื่อนเอามาฝากไว้ ตำรวจบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แต่ยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก ก่อนนำตัวสามเณรทั้งหมดไปทำการลาสิกขาบทกับพระมหาญาณธวัช ญาณพุธโธ เจ้าอาวาสวัดพวงพยอม และนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนในข้อหาร่วมกันร่วมกันมียาบ้าไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎ

เสื้อแดงน่านบุกบ้านแม่ยาย รมว.สาทิตย์

เสื้อแดงน่านบุกบ้านแม่ยาย รมว.สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ก่อนเคลื่อนพลไปพนนตประชาธิปัตย์ กดดันให้ยุบสภา...

กลุ่มคนเสื้อแดงเมืองน่าน กว่า 500 คน นำโดย นาวาอากาศโท สมพงษ์ บูรณัตถากร อดีตข้าราชการทหารอากาศ ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่จ.น่าน ที่รวมตัวปักหลักอยู่ที่บริเวณใจ เมืองน่าน รอรับคำสั่งจากแกนนำ นปช.ส่วนกลาง ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งวันนี้ ได้มีความเคลื่อนไหวซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดง เคลื่อนพลไปปิดล้อมและปิดประกาศเพื่อกดดันรัฐบาล ที่บ้านเลขที่ 159 บ้านเขาน้อย หมู่11 ต.ดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน ซึ่งเป็นบ้านของ นายสุวิทย์ สุนทรจันทร์ และนางบุญสุ่ม สุนทรจันทร์ ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงเชื่อว่าเป็นบ้านพ่อตาแม่ยาย ของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีการกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล และแสดงความไม่พอใจต่อการทำงานของนายสาทิตย์

แต่เมื่อพบว่าบ้านถูกปิด และไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน จึงพากันเคลื่อนพลต่อไปยังด้านหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ สาขาน่าน ถนนสายน่าน-พะเยา ต.ไชยสถาน อ.เมืองน่าน ซึ่งก็ปรากฏว่าวันนี้ได้ปิดทำการ โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้นำประกาศการเรียกร้องประชาธิปไตยและเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา นำไปปิดไว้ที่ประตูเหล็กด้านหน้าที่ทำการพรรคฯ

ทั้งนี้ นายคำรณ ณ ลำพูน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษาพรรคสาขาน่าน เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มากดดันหน้าที่ทำการพรรคสาขา ก็สร้างความกังวลอยู่บ้าง แต่เข้าใจว่าเป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงของน่านต้องรอรับคำสั่งและทำตามคำสั่งของแกนนำ นปช.จากส่วนกลาง การเคลื่อนไหวกดดันเป็นวิธีการเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างไรก็ตามในฐานะกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงเห็นด้วยกับแนวทางที่รัฐบาลพยายามใช้ความประนีประนอมอย่างถึงที่สุด และทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้องและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

หลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงได้เคลื่อนพลไปกดดันต่อที่บริเวณด้านหน้าค่ายสุริยพงษ์ จังหวัดทหารบกน่าน ซึ่งมีกำลังพลทหารได้ปิดถนนบริเวณด้านหน้าค่ายฯ เฝ้าระวังสถานการณ์การชุมนุม ซึ่งหลังจากที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้อ่านแถลงการณ์จุดยืนของกลุ่มคนเสื้อแล้ว ได้จับมือกับทหารเพื่อแสดงมิตรภาพ ก่อนที่จะสลายการชุมนุมกลับไปชุมนุมต่อยังบริเวณลานข่วงเมือง ข้างศาลากลางจังหวัดน่าน เพื่อรอรับคำสั่งในการปฏิบัติการขั้นต่อไป ท่ามกลางการเฝ้าระวัง สังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจและหน่วยปราบปรามจลาจล ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ที่ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไปในแต่ละจุดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุความรุนแรง

อย่างไรก็ตาม ด้าน พ.อ.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ รองผู้บังคับการ จทบ.น่าน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดน่าน ได้มีการร้องขอกำลังพลสนับสนุนเฝ้าระวังเหตุความรุนแรงจากการชุมนุม ซึ่งทางหน่วยทหารได้มีการเตรียมกำลังพลความพร้อมไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามจะมีการปล่อยพักพลทหารบางส่วนได้กลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเชื่อว่าความเคลื่อนไหวในพื้นที่น่าน จะไม่มีความรุนแรงใดๆ